top of page
Writer's pictureMasharee S

Neon Genesis Evangelion



สิ่งมีชีวิตที่เราเรียกว่าพระเจ้าได้สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาอีก 2 ตัวคือ อดัมและลิลิธ ทั้งสองอย่างนี้เรียกว่า Seed of Life แต่ถ้าหากนำทั้งสองมารวมกันก็จะทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตที่เทียบเท่าพระเจ้าซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่ต้องการ

เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างพระเจ้าองค์ที่ 2 ขึ้นพระเจ้าเลยส่ง Seed of Life ออกไปในระบบสุริยะจักรวาลให้ไปสร้างโลกและเผ่าพันธ์ของมันเอง Seed of Life ที่เราเห็นกันในฐานะของพระจันทร์สีดำและพระจันทร์สีขาว

(ตามความเข้าใจในตอนนี้)

เฟิร์ตอิมแพ็คคือตอนที่พระจันทร์สีขาวมาจุติบนโลก

อดัมที่อยู่ในพระจันทร์สีขาวได้สร้างสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสาวกหรือเทวทูตขึ้น

จากนั้นพระจันทร์สีดำได้มาจุติบนโลกตามมาทีหลังและข้างในพระจันทร์สีดำนั้นมีลิลิธ

ผู้ซึ่งได้สร้างเทวทูตขึ้นมาเรียกว่า ลิลิน หรือ มนุษย์ นั่นเอง



หอกลองกินุส

มีไว้ผนึกสิ่งมีชีวิตใน Seed of Life ถ้าผนึกลิลิธด้วยหอกลองกินุสก็จะลดสภาพการเจริญเติบโตของลิลิธเอาไว้และเป็นเช่นเดียวกันกับอดัม

แต่การมาของลิลิธที่ไม่ได้มีหอกปักมาด้วยทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าลิลินปรากฏขึ้นมาส่วนอดัมยังคงถูกผนึกด้วยหอกอยู่แต่อำนาจก็ไม่ได้เสื่อมไปจึงยังคงมาสิ่งมีชีวิตอย่างเทวทูตเกิดขึ้นมาเพียงแค่ไม่มีสติสัมปชัญญะหรือวิญญาณในร่าง


การเจออิมแพ็คหรือการทำให้ทุกสิ่งกลับสู่ปฐมกาล

เซคันอิมแพ็คคือตอนที่มนุษย์เอาหอกลองกินุสออกจากอดัมและนำดีเอ็นเอของลิลินไปผสานกับอดัมและเกิดเป็นการทดลอง Contract Experimental ทำให้อดัมตื่นขึ้นและเกิดเซคันอิมแพ็คที่ฆ่าชีวิตคนไปครึ่งโลก

แต่เพราะเหตุนั้นอดัมจึงได้ลดสภาพกลับกลายเป็นตัวอ่อนไปส่วนจิตวิญญาณของอดัม SEELEE

เหตุการณ์ต่อมามนุษย์ได้นำหอกลองกินุสของอดัมมาปักไว้ที่ลิลิธและเก็บลิลิธไว้ที่เซ็นทรัลดอกต์มา


สิ่งที่มนุษยชาติพยายามที่จะทำคือการหยุดอิมแพ็คต่อไปนั่นคือ เทิร์ดอิมแพ็ค

การที่จะปะทุให้เกิดอิมแพ็คนี้ได้คือการนำเทวทูตกลับคืนสู่อดัมและจะเกิดการล้างโลกเกิดขึ้นและลิลิน + ลิลิธจะแตกตายเป็นน้ำ LCL กันหมด



The End of Evangelion

ก่อนหน้านั้นเซเลอมีความตั้งใจในแผนมนุษยชาติว่าจะทำให้มนุษย์กลับไปสู่จุดเริ่มต้นกลายเป็นจิตวิญญาณที่ไร้ตัวตนไร้เอทีฟิลด์เพื่อที่โลกนี้จะได้ไม่มีความทุกข์แต่ความต้องการของเก็นโดคือต้องการจะเจอยูอิอีกครั้งซึ่งการจะทำอย่างนั้นเขาต้องละทิ้งความเป็นมมนุษย์และเพื่อที่จะเติมเต็มความปราถนานั้นเขาจะกลายมาเป็นพระเจ้าและถึงแม้ว่านั่นจะแปลว่ามนุษยชาติต้องตายเขาก็ไม่สนเขาเลยมีความต้องการที่ไม่เหมือนเซเลอแต่ผลพวงที่ตามมานั้นคล้ายกันนั่นคือการสร้างเทิร์ดอิมแพ็คแต่ถึงอย่างนั้นเซเลอกับเก็นโดก็เป็นปรปักกันเพราะต่างฝ่ายต่างอยากควบคุมเทิร์ดอิมแพ็คด้วยตัวเอง

เซเลอเริ่มย้นระยะเวลาการเกิดเทิร์ดอิมแพ็คให้ไวขึ้นโดยส่งคนมาถล่มเนิร์ฟและกะจะชิงตัวเอวาไปอีกทั้งยังส่งเอวาซีรีย์ชุดใหม่มาเพื่อทำพิธีกรรมขั้นต่อไป เซเลอได้ทำลายจีโอฟอร์นและทำให้มันกลับมาเป็นสภาพเดิมคือพระจันทร์สีดำ(เชื่อว่าจีโอฟอร์นตั้งอยู่บนพระจันทร์สีดำ) สิ่งนั้นจะกลายมาเป็นที่ๆ บรรจุวิญญาณมนุษย์ทั้งหมดหากเกิดเทิร์ดอิมแพ็ค

อิการิ เก็นโดจะเริ่มทำพิธี

ความต้องการของเก็นโดคือการเป็นพระเจ้า ในขณะที่เก็นโดกำลังจะรวมร่างกับเรย์ชินจิที่ขับเอวาอยู่ข้างนอกได้กรีดร้องและมีความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจากการที่เห็นสภาพศพเอวา 02 ที่เละเป็นชิ้นดี เรย์สัมผัสได้เรย์จึงเลือกไปหาชินจิแทนที่จะรวมร่างกับเก็นโดแต่ตอนนี้ในร่างของเรย์มีอดัมตัวอ่อนที่ได้มาจากเก็นโดแล้วเรย์ที่ถูกขัดในการทำพิธีจึงนำร่างตัวเองที่เป็นภาชนะของอดัมมารวมร่างกลับสู่ลิลิธทำให้กลายเป็นสิ่งที่เทียบเท่ากับพระเจ้าหรือพระเจ้าองค์ใหม่ขึ้น ชินจิที่อยู่ในเอวา 01 จะเป็นทั้งตัวกระตุ้นและตัวที่ทำให้ทุกพิธีกรรมเกิดขึ้นจริง

01 ที่ถูกปลุกขึ้น ชินจิที่สติไม่คงที่ เอวาซีรีย์ชุดใหม่ได้บินขึ้นสู่ฟ้าล้อมรอบ 01 กลายเป็นสัญลักษณ์ปีกทั้งหกและต้นไม้แห่งชีวิตเป็นประตูเปิดระหว่างโลกและสวรรค์ เรย์ที่ได้มาหาชินจิบวกกับเอวาซีรีย์รุ่นใหม่ได้กลายเป็นสาวกของเรย์จึงมีใบหน้าของเรย์ผุดขึ้นช่วงหัว หอกลองกินุสที่ตอนแรกไปโคทันใดนั้นโลกจึงถูกชำระล้างเอทีฟิลด์สลายทุกคนกลายเป็น LCL แต่ทางเลือกของพิธีกรรมนี้มีอยู่ 2 ทางคือโลกที่ทุกคนไม่ต้องเจ็บปวดไม่ต้องทุกข์แต่ทุกคนจะไร้ตัวตนและโลกจะแตกสลายกับโลกที่หากจิตวิญญาณดวงใดดวงหนึ่งยอมรับที่จะเจ็บปวดและเรียนรู้รับสภาพความจริงได้ก็จะกลับมาอยู่บนโลกนี้ได้อีกครั้ง คนตัดสินใจคือชินจิที่นั่งอยู่บนเอวา01 ชินจิได้ตัดสินใจว่าเขาจะยอมรับกับชีวิตที่อาจเจ็บปวดและอาจจะเจอกับเรื่องที่ทำให้เศร้าและอยากหนีไปก็เถอะ



ทำไมชินจิบีบคออาซุกะ

จากเม้นต์ในพันทิปที่ชอบมากเม้นต์นึง

มองว่าอาจจะเป็นมุมมองที่ชินจิคือคุณอันโนะส่วนอาซุกะคือ NGE TV Series ในช่วงนั้นคุณอันโนะเครียดและเกิดภาวะซึมเศร้าขั้นที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่และเกลียดอนิเมะที่ตัวเองสร้าง เขาอาจจะอยากฆ่าเอวาซีรีย์ทิ้งเลยกลายมาเป็นตอนจบที่ชินจิบีบคออาซุกะและทุกอย่างบนโลกก็จบสิ้นไม่เหลืออะไรอีก แต่อาซุกะก็ลูบหน้าชินจิอย่างอ่อนโยนเป็นเหมือนการปลอบปะโลมว่าถึงเขาจะเกลียดเอวานแค่ไหนแต่เอวานที่เขาสร้างก็ยังอยู่กับเขาแถมความสำเร็จนั้นมันมหาศาลมาก เป็นสิ่งที่เขาเองไม่อาจปฏิเสธได้และมันเป็นผลดีที่แลกมากับความเจ็บปวดในใจเขาที่เกลียดเอวาน เป็นเรื่องตลกร้ายจนชินจิต้องร้องไห้ออกมาและทำให้อซุกะถึงกับบอกว่า “น่ารังเกียจ”

และมุมมองของเราเอง

ซึ่งมีอีกแบบให้มองคือ ชินจิที่ไม่เหลืออะไรแล้วนึกถึงแต่อาซุกะต้องการแต่อาซุกะคนเดียวแต่กลับช่วยตัวเองต่อหน้าอาซุกะที่นอนกึ่งเปลือยโคม่าอยู่ในโรงพยาบาล นั่นเป็นจุดที่ทำให้ชินจิรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปต่อหน้าเธอ เลยเป็นผลในตอนที่อาซุกะกำลังสู้กับเอวานซีรีย์ชุดใหม่ ชินจิทำได้แค่นั่งกอดเข่าเพราะเขากลัวการเผชิญหน้ากับอาซุกะและคิดว่าการอยู่ให้ห่างจากอาซุกะตอนนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะคิดว่าอาซุกะคงจะเกลียดเขาเข้าแล้ว

พอถึงตอนที่ฝันอยู่ในเอวานความรู้สึกกลัวว่าอาซุกะจะเกลียด กลัวว่าอาซุกะจะทิ้งและกลัวว่าตัวเองจะไม่เหลือใครก็ทวีคูณขึ้น ชินจิในตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ เลยขอร้องอยากให้ใครสักคนช่วยและนั่นคืออาซุกะ เพราะความกลัวที่ไม่กล้าเผชิญกับความจริงที่ว่าถ้าไปหามิซาโตะก็จะโดนบอกให้ไปขับเอวานถ้าไปหาเรย์ก็จะเป็นเรย์คนที่ไม่ได้มีความผูกพันธ์อะไรด้วยแต่ถ้าหาอาซุกะมันง่ายที่สุด

อาซุกะที่เป็นเหมือนคนที่ชินจิพึ่งพาได้ก็บอกชินจิในภาพฝันทำนองว่าเป็นเพราะนายที่เอาแต่เกลียดตัวเองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองนายเลยกลัวที่จะมาช่วยฉันและนายก็ปล่อยให้ฉันโดนทำร้ายนั่นก็แปลว่านายน่ะทำร้ายฉันไปด้วย อาซุกะในภาพฝันพลักชินจิและซ้ำต่อว่าน่าสมเพชมันเลยทำให้บรรยกาศเต็มไปด้วยด้านลบ

คำพูดพวกนี้มันไม่ใช่สิ่งที่ชินจิหวังที่จะได้ยิน ตอนนั้นเขาต้องการใครสักคนบอกรักเขาเท่านั้นเองแต่อาซุกะบอก

“ไม่” ชินจิจึงเปลี่ยนจากรู้สึกผิดเป็นแค้นและเกลียดชังอาซุกะเลยเข้าไปบีบคออาซุกะในฝัน

คิดว่าชินจิน่าจะคิดว่า แค่บอกว่าไม่เป็นไรแล้วทำตัวดีๆ กับเขาไม่ได้หรอ อะไรแบบนั้นอะนะ


พอชินจิเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าเขาน่าจะลองคิดเรื่องชีวิตและยอมรับความเจ็บปวดดู เขาเจออาซุกะที่นอนอยู่ข้างๆ เขาในตอนนั้น ชินจิน่าจะคิดว่า “ทั้งรู้สึกผิด ทั้งรู้สึกต้องการ แต่ถ้าเห็นอาซุกะอยู่ตรงนั้นจะรู้สึกอับอายและเจ็บปวด ไม่อยากได้ความเจ็บปวดนี้อีก” ชินจิเลยบีบคออาซุกะด้วยความรู้สึกที่โคตรสับสน

มันคือความต้องการในตัวอาซุกะ อยากตะโกนว่าฉันต้องการเธอมากๆ แต่เหมือนรู้อยู่ว่าเธอต้องเกลียดฉันและปฏิเสธฉัน มันเจ็บปวดเกินที่จะรับอะไรแบบนั้นได้หลังจากที่ทุกอย่างมันหายไปเลยกลายเป็นตอนจบแบบที่เห็นแต่คนอย่างอาซุกะเป็นเรื่องยากมาที่จะเห็นมุมอ่อนโยนจากเธอแต่กระนั้นเองอาซุกะก็ลูบหน้าชินจิอย่างอ่อนโยนหรือจะมองว่าเธอไม่เหลือแรงจะตบหน้าแล้วก็ได้แต่ถ้ามองในมุมที่ลูบหน้าอย่างอ่อนโยนมันก็ตีความได้ว่าอาซุกะยอมรับในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อชินจิและยอมแสดงด้านอ่อนโยนที่มันแสดงออกมายากมากๆ ให้ชินจิเห็น ชินจิที่เห็นอย่างนั้นก็เหมือนปลดล็อคอยู่นิดนึงว่าคนที่เอาแต่ทับทมคนอื่นอย่างอาซุกะก็ทำดีกับเขาได้บ้าง และที่อาซุกะพูดว่า “น่ารังเกียจ” หรือ คิโมจิวารุย อาจเป็นเพราะรังเกียจด้านที่ตัวเองแสดงออกไปหรือไม่ก็คือพูดถึงชินจิที่บีบคอเธอ

และอีกอย่างคือ อาซุกะเองลึกๆ แล้วก็รักชินจิและต้องการชินจิในตอนที่โลกทั้งใบมันล่มสลายเหมือนกัน

ซึ่งอิงจากข้อความที่บอกว่า One More Final: I need You



หัวข้อในการตีความ

สภาพจิตใจของตัวละคร


อิการิ ชินจิ เป็นคนที่มีความสุภาพและเรียบร้อยในภายนอก เป็นเด็กที่เชื่อฟังผู้ใหญ่และคนรอบข้าง เป็นคนที่ดูใจดี อบอุ่นและดูนิ่งไม่สุงสิงกับใครนั่นคือภายนอกแต่ถ้ามองจากภายในสภาพจิตใจชินจิแล้วเขาเป็นคนที่ขาดความรักให้ตัวเอง เป็นคนที่ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้างแต่ถึงต้องการอย่างนั้นชินจิเองก็ไม่ยอมเปิดใจให้กับใครเท่าไหร่เลือกจะเก็บตัวและมองว่าตัวเองไม่สำคัญขนาดที่คนอื่นต้องมารักหรือใส่ใจ เพราะเป็นอย่างนั้นมันจึงทำให้ชินจิก็ไม่เห็นความสำคัญของคนอื่นเช่นกันเพราะคิดว่าฉันมันแย่ฉันมันไม่ดีเลยไม่มีความมั่นใจพอที่จะให้ความสำคัญกับคนอื่นทั้งๆ คนรอบตัวเขาก็ให้ความสำคัญกับเขาเช่นกัน แต่ถ้าบอกอย่างนี้แล้วตอนที่ชินจิช่วยเรย์ล่ะเขาก็ให้ความสำคัญกับเรย์ถูกไหมล่ะ ใช่ เขาเป็นห่วงเรย์เพราะในตอนที่สู้กับเทวทูตรามิเอลเอวา 00 ได้เกิดอาการชำรุดหนักมากก่อนหน้านั้นที่ชินจิกับเรย์คุยกันเรย์พูดเหมือนกับว่าเธอจะต้องตายในคืนนี้ชินจิที่ไม่ชอบความสูญเสียจึงเป็นกลัวว่าเธอจะตายจริงๆ จึงรีบเข้าไปช่วยเรย์ในเอ็นทรีปลั๊กและบอกว่า “อย่าพูดเหมือนว่าเธอจะจากไปแบบนั้นเลย” และในตอนที่เรย์เห็นชินจิร้องไห้เพราะเธอ เธอก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร ชินจิจึงบอกว่าอย่างน้อยก็ยิ้มออกมาก็พอ

เรย์จึงยิ้มตอบพร้อมกับเห็นความเป็นเก็นโดในชินจิอีกด้วย เรย์เริ่มเห็นชินจิเป็นเพื่อนและยอมรับเขาทำดีกับเขาเพียงเล็กๆ เท่านั้นแต่สำหรับชินจิน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกมีตัวตนและรู้สึกได้รับความรักอยู่เช่นกัน

ชินจิขาดความรักจากครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะแม่ที่ตายไปตั้งแต่ยังเด็กกับพ่อที่ทิ้งเขาไปและไม่คิดจะดูแลเขาเลยทำให้เขาขาดคนที่สำคัญต่อชีวิตเขาไป

ชินจิต้องเติบโตมากับความรู้สึกที่โหยหาคำว่าครอบครัวมาตั้งแต่เด็กแต่เล็ก แต่ไม่มีใครที่ทำหน้าที่ตรงนั้นได้ เขาโดดเดี่ยวและต้องอดทนกับความเหงานั้นจนเขาไม่หวังความรักและปิดกั้นตัวเองเพราะคิดว่าตัวเองไม่สมควรได้รับและด้อยค่าของตัวเอง

เชื่อว่าเด็กอย่างชินจิตั้งคำถามมากมายถามตัวเองว่า

เพราะอะไรถึงทิ้งฉันไป

ฉันไม่มีค่าพอให้ดูแลหรอ

ฉันสมควรได้รักความรักไหม

หรือฉันไม่สมควรได้รับความรักกันแน่


อย่างที่อาซูกะเคยบอก ชินจิน่ะต้องการแม่

ก็จริง ลึกๆ ถึงจะปิดใจตัวเองแต่เขาต้องการคนที่เข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดของเขาไปแบบที่ไม่ต้องพยายามมาก เขาไม่อยากเจ็บปวดกับความสัมพันธ์ที่ต้องสร้างขึ้นมาแต่เขาต้องการความสัมพันธ์ที่ทำให้เขารู้สึกถึงสิ่งที่โหยหา คนที่ทำให้เขาไม่เหงาและรู้สึกได้รับความรักแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชินจิรู้ว่าการจะได้ตามที่เขาต้องการเขาต้องรู้จักการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นแต่นั่นคือสิ่งที่ยากและอาจทำให้เขาเจ็บปวดเขาเลยเลือกที่จะเลิกหวังไป






11 views0 comments

Commentaires


bottom of page