สิ่งที่ทำไปวันนี้
- ศึกษาความเป็นมาของการเกษตรเนเธอร์แลนด์!!
เราไปอ่านข้อมูลนี้มาจากลงทุนแมน บทความนี้ดีมากๆ
มันเกี่ยวกับประวัติของประเทศเนเธอร์แลนด์ว่าเขากลายมาเป็นประเทศที่ส่งออกของเกษตรกรรมเป็นอันดับ 2 ของโลกได้อย่างไรรรรรรรร
มันเริ่มจากการหาพื้นที่ของชาวดัตช์และเริ่มสร้างพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่เล็กๆ นั้น
ในตอนนั้นยังคงอยู่ใต้อำนาจของสเปนอยู่ยังไม่ใช่ประเทศเนเธอร์แลนด์ในตอนนี้แต่วิลเลียมแห่งออเรนจ์ได้ขับไล่พวกสเปนออกไปจนหมดและตั้งที่ๆ ชาวดัตช์อยู่ให้เป็นสาธารณรัฐดัตช์หรือเนเธอร์แลนด์นั่นเอง
ถ้าไม่มีกำลังจากเมืองไลเดนก็จะไม่มีเนเธอร์แลนจนถึงทุกวันนี้วิลเลียมแห่งออเรนจ์จึงอยากขอบคุณโดยให้เมืองไลเดนเลือกว่าระหว่างการลดภาษีกับการสร้างมหาวิทยาลัยในเมือง ไลเดนเลือก"มหาวิทยาลัย"
หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยไลเดนก็ได้เป็นที่ทดลองการเพาะปลูกพืชในโรงกระจกแห่งแรก!!
ประเทศเนเธอร์แลนด์เด่นในเรื่องการประมูลขายดอกไม้มากๆ ในเมืองอัลสเมียร์ได้จัดตั้งการประมูลแบบชาวดัตช์ขึ้นคือการประมูลแบบเริ่มจากราคาที่สูงที่สุดลงมาจนถึงราคาที่คนสามารถซื้อขายได้เพิ่มรักษามูลค่าดอกไม้ให้สดคงที่
เมืองอัลสเมียร์ถือว่าเป็นเมืองหลวงแห่งดอกไม้เลยทีเดียวเพราะเป็นเจ้าแรกที่ข้นส่งดอกไม้ผ่านทางเครื่องอากาศโดยใช้เครื่องบินนั่นเอง!!
แต่หลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวดัตช์เกิดวิกฤตขาดแคลนพืชอาหารเป็นอย่างมาก
นายกกรมเกษตรของเนเธอร์แลนด์จึงออกนโยบายให้ทุกคนสามารถทำการเพาะปลูกเป็นธุรกิจ
นับแต่นั้นมาชาวดัตช์ได้พัฆนาการเกษตรขึ้นไปอีกขั้น เขาไม่ต้องรอดินฟ้าอากาศแต่สามารถควบคุมน้ำ อาหารและอุณหภูมิในการเกษตรได้เอง และชาวดัตช์ยังใช้วิธีไฮโดรโปนิกในการเพาะปลูกซึ่งมันคือการใช้ระบบหมุนเวียนน้ำและไม่ปลูกพืชโดยใช้ดินอีกด้วย!! และยังมีวิธีในการเพาะปลูกอื่นๆ อาทิเช่น ปลูกในเรือนกระจกที่สามารถปลูกพืชเขตอบอุ่นในนั้นได้ หรือการเปลี่ยนจากการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นเกษตรอินทรีย์ ฯลฯ
เรื่องการเกษตรของเนเธอร์แลนด์เนี่ย มีอีกเยอะให้ศึกษาและสนุกมากๆ แต่วันนี้สรุปได้ประมาณนี้ฮะะะ
- วาดรูปตาม reference
วันนี้วาดรูปตามเรฟใน Pinterest ที่เซฟมา เราเอา ref มาวาดใหม่เป็นลายเส้นของเรา
และ ref ที่เราใช้มาจากรูปคนจริงๆ ซึ่งมันช่วยในการฝึกวาดสรีระและการวาดจากตัวคนจริงๆ ไม่ใช่ภาพวาด และมันสนุกมากๆ ที่จะลองสังเกตและวาดให้เป็นตัวเรา!!
(ภาษาที่ตัวเองพูดเหมือนสิริมาก ไม่ธรรมชาติเอาสะเลย วะฮ่าฮ่า)
นี่คือภาพที่เราวาด!!!
(Ref อยู่ด้านซ้ายยยยย)
อันนี้คือตอน sketch
และอันนี้คือลงลายอาร์ต!! (ตัดเส้น)
อยากจะบอกว่าส่วนที่ไม่ค่อยสวยคือนิ้ววววว ต้องฝึกอีกหน่อย
- ออกแบบตัวละครกับเซ็นเซ(เป็นเพื่อนของเราเอง)
เราคิดจะสร้างมังงะกับเซ็นเซขึ้นมาจึงต้องมีขั้นตอนออกแบบตัวละคร เรากับเซ็นเซเลยแข่งกันออกแบบตัวละครและเลือกว่าชอบของใคร
และสรุปก็เป็นแบบนี้
นางเอกเป็นการผสมความเป็นเซ็นเซกับเราลงไปกลายเป็นแบบนี้
เป็นตัวละครที่โทรมๆ แต่น่ารักน่าเอ็นดู
ตัวต่อไปเป็นตัวละครลายเส้นเซ็นเซ
ที่เลือกของเซ็นเซเพราะตัวละครคอนเซ็ปเข้ากับนิสัยที่คิดกันไว้ตอนแรกมากว่าต้องธรรมดาๆ และที่เซ็นเซวาดมันธรรมดาโคตรๆ
แต่ของเรามันดูเปรี้ยวกว่าเลยไม่ตรงกับนิสัยที่วางเอาไว้5555555
และอันนี้คือที่เราวาด
ต่อไปก็เป็นความคิดของเราทั้งสองตัวเลยแต่ให้เซ็นเซปรับแต่งอีกนิดจนมันผสมรวมกันเป็นตัวละครที่สนุกขึ้น
คนนี้ก็มีสตอรี่ทำตัวเป็นนักเลง และติดอนิเมะแถมชอบคอสเพลอีกด้วยซึ่งตอนแรกเรากะจะให้เขาแต่งตัวแนวยุโรปๆ แต่พอมีไอ้เดียแต่งคอสเพลของเซ็นเซเข้ามามันสนุกขึ้นเยอะเป็นกอง!!
ส่วนคนนี้ไม่มีไรมากแต่คอนเซ็ปจะประมาณว่าถึงตัวเป็นผู้ใหญ่แต่ใจเป็นเด็กวัยใส อะไรประมาณนี้ อายุ20-25 แต่ความร่าเริงเท่าเด็ก10ขวบ ส่วนเด็กผีข้างหลังคือวาดเล่นค่าาาาา
การทำงานกับเซ็นเซเหมือนได้ฝึกการเจรจา การต่อรองและการสื่อสาร แถมฝึกการนำเสนอและการวาดรูปและการคิดเนื้อเรื่อง คือได้ฝึกเยอะมาก!!! เป็นประสบการ์ณที่ดีมากๆ เลยล่ะ
- เต้นเพลง Montero และ ฟรีสไตล์
เป็นการเต้นแบบว่า สุดทีนมาก เหมือนพรุ่งนี้โลกจะถล่ม รึเปล่า 555555555555 ไม่ขนาดนั้นหรอกนะ เรากะจะทำการเต้น 30 วันโดยไม่หยุดเหมือนส้มหยุดอะนะ วันนี้เป็นวันแรกที่คิดก็จะมีทั้งดูการฟรีสไตล์ของตัวเองและเต้นโคฟเพลงที่ชอบอะไรงี้ ดูว่าต้องฝึกเบซิคอะไร และต้องแก้ตรงไหน และมีอะไรต้องปรับปรุง
เราฟรีสไตล์ไป 2 เพลง มี One last kiss ของ Utada Hikaru กับ Need to know ของ Doja Cat
One last kiss เราคิดว่าเราเต้นดีมทากๆ เบย ไม่น่าเชื่อ แต่แค่นิ่งเรื่อง popping กว่านี้น่าจะดีขึ้น
ส่วน Need to know เริ่มมาโอเคนะและดีขึ้น แต่หลังๆ ไม่ได้เลย555555 เพราะมันเร็วมากเลยไม่รู้จะยังไงดี
Comments