การถลอกเกิดขึ้นเมื่อพื้นผิวภายนอกถูกแรงกระทบจนทำให้ผนังหลอดเลือดแตกและทำให้เม็ดเลือดไหลออกจากร่างกาย ส่วนแรงกระทบที่ว่านั้นคือรอยขีดข่วนหรือแผลที่เกิดจากการขูดผิวหนังจะไม่ลึกไปกว่าชั้นหนังกำพร้า สิ่งที่เกิดขึ้นตามหลังมาคือ
หลอดเลือดหดตัว เพื่อให้เลือดไหลช้าลง
ปิดวาล์วน้ำเหลืองเพื่อกั้นไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับและต้องย้อนกลับไปทางหัวใจเท่านั้น
และเชื้อโรคบุกรุก ถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่ามันเล็กน้อยแต่เชื้อโรคจำนวนมากที่เกาะอยู่ตามผิวหนังเราสามารถเข้าไปจู่โจมบริเวณที่เป็นแผลได้
งั้นมาพูดถึงจำพวกของเชื้อโรคที่บุกเข้าไปในแผลของเรากันดีกว่า ส่วนใหญ่แล้วเชื้อโรคที่เข้ามาเป็นประเภทแบคทีเรีย เช่น
- สเตรปฟิโรค็อกคัส ออเรียส ซึ่งเจ้าชนิดนี้สามารถพบได้ตามผิวหนังและรูขุมขน และมันสามารถทำให้เกิดโรค ผิวหนังอักเสบ อาหารเป็นพิษ ปอดปวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด
- สเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีนัส มักอยู่ในลำคอระบบทางเดิดอาหารและผิวหนัง ถึงมันจะเป็นจุลินทรีย์ที่ธรรมดามากๆ แต่ก็ทำให้เกิดโรคได้หลายอย่างเหมือนกัน
- ซูโดโมนาส แอรูจิโนซา เป็นจุลินทรีย์ธรรมดาที่พบได้ในธรรมชาติ เจ้าตัวนี้ทำให้ก่อเกิดโรคซูโดโมนาส และอื่นๆ
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องฆ่าเชื้อโรคจากภายนอกไม่ให้เข้ามาข้างในด้วยเบตาดีน
การรักษาของร่างกาย
ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้และหน่วยลาดตระเวนอย่างเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิวก็คอยจัดการกับเชื้อโรครอให้ เกล็ดเลือด มาซ่อมแซมด้วยการใช้ไฟบรินและปัจจัยแข็งตัวของเลือดเชื่อมไฟบรินเอาไว้ด้วยเพื่อสร้างที่จับเกล็ดเลือดซึ่งเป็นกลไกการแข็งตัวของเลือดขั้นต้น ที่สร้างจากโปรตีน เพื่อช่วยให้เลือดเกาะตัวกันและช่วยปิดแผล จากนั้นโปรตีนในเลือดที่ทำให้เลือดแข็งตัวจะทำงานร่วมกันและในที่สุดเยื่อหุ้มของสารไฟบรินจะห่อหุ้มปิดคลุดทั่วแผลเพื่อกันไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาได้อีก
เลือดที่ไหลมาติดกับไฟบรินจะแข็งตัวและเมื่อลิ่มเลือดแห้งก็กลายเป็นสะเก็ดเลือดนั่นเอง
Comments