ละอองต้นสนจะบุกเข้ามาในเยื่อบุโพรงจมูกในลักษณะของการแตกตัวออกและพุ่งเข้ามาเปรียบ
เหมือนอุตกาบาต ทำให้ร่างกายตอบสนองกับละอองต้นสนพวกนั้นในรูปแบบอาการภูมิแพ้ ละอองพวกนี้เข้ามาทางโพลงจมูกแล้วเดินทางบุกรุกเข้าไปในท่อน้ำตาเพื่อไปยังเยื่อบุตา
ผู้คอยสั่งการการจัดการกับการภูมิแพ้นี้คือเซลล์ T Helper มันจะนำข้อมูลของผู้บุกรุกมาประมวลผลเพื่อวางแผนวิธีรับมือและป่าวประกาศความผิดปกติให้ทั่วร่างกายได้รับรู้
เมื่อละอองต้นสนได้บุกเข้ามาในร่างกายของเรา ผู้ที่จะออกมาและช่วยกอบกู้ร่างกายของเราจะมีเซลล์
B memory จะเป็นลิมโฟไซต์ที่จดจำการตอบสนองของภูมิคุ้มกันพวกเขาช่วยในการตอบโต้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคชนิดเดิม นิวโทรฟิลก็มีส่วนในการจัดการกับละอองต้นสนโดยการทำกระบวนการฟาโกไซโทซิสหรือเขมือบพวกมัน ส่วน T Helper จะส่งเซลล์ B ที่มีความสามารถในการผลิตแอนตี้บอดี้เป็นอาวุธในการต่อกรกับสิ่งแปลกปลอมในร่างกายหรือเรียกว่า แอนตี้บอดี้ไอจีอี (IgE)
แต่เมื่อเซลล์ B ปล่อยแอนตี้บอดี้ออกมาเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เซลล์แมสต์ต้องปล่อยฮีสตามีนออกมาเยอะเท่านั้น ฮีสตามีนเป็นสารที่ถูกหลั่งออกมาเพื่อบอกว่าตรงนี้เกิดการแพ้,พบสิ่งแปลกปลอม, หรือเมื่อเนื้อเยื่อโดนทำลาย แถมฮีสตามีนยังสามารถขยายหลอดเลือดเพื่อโยกย้ายลิมโฟไซต์หรือพวกเม็ดเลือดขาวชนิดอื่นให้ไปไหนมาไหนได้รวดเร็วขึ้น แต่มันก็ส่งผลกระทบไปยังส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดความเสียหายเช่นกันจึงเรียกกันว่า การแพ้สารฮีสตามีน เซลล์ต่างๆ จะทำงานยากขึ้น ผนังเซลล์ก็เสียหายไปด้วยและปฏิกิริยาที่ร่างกายแสดงออกมายังมีการจามหลายครั้ง,คัดจมูก ฮีสตามีนขยายหลอดเลือดที่เยื่อบุผลที่ตามมาคือมันจะบวมขึ้นและ ตาบวมขึ้นหรือคันตาเพราะฮีสตามีนไประแคะระเคืองที่ประสาทตา ทำให้เกิดการอักเสบ สุดท้ายละอองต้นสนที่เข้ามาบุกรุกร่างกายจนกลายเป็นสิ่งแปลกปลอดที่จัดการไม่ได้ก็จะทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก ตันจมูกและคันตา และเป็นการภูมิแพ้ละอองต้นสนอย่างสมบูรณ์
การรักษาอาการภูมิแพ้นั้นก็คือการกินยาที่มีส่วนผสมของ สเตียรอยด์ (Steroid) หรืออีกชื่อคือคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เป็นยาต้านการอักเสปและกดภูมิต้านทาน มันมีหน้าที่ทำลายเซลล์ ผนังเซลล์หรือทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภูมิแพ้ มันไม่เลือกว่านี่คือเซลล์ในร่างกายหรือนี่คือผู้บุกรุกเลย และหน้าที่หลักคือการยับยั้งโรคหรืออาการแพ้ที่เกิดจากฮีสตามีน แต่ก็ใช่ว่าสเตียรอยด์จะทำลายร่างกายเราไปตลอด ในท้ายที่สุดมันก็สามารถหมดฤทธิ์ในการใช้งานได้เหมือนกันและสเตียรอยด์ก็มีผลข้างเคียงด้วยเพราะงั้นต้องใช้อย่างระมัดระวังด้วย
Comments