เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสในร่างกาย ไวรัสแพร่พันธ์ุผ่านเซลล์ในร่างกายทำให้เซลล์กลายเป็นเซลล์ติดเชื้อหรือแอนติเจน เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของเราต่อกรกับแอนติเจนร่างกายจะเพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้นหรือเป็นไข้ ตัวร้อน ปวดหัว ปวดตามข้อต่างๆ และเพิ่มปรับให้ร่างกายเย็นลงต่อมเหงื่อจะระบายเหงื่อออกมาด้วย และร่างกายจะลดความอยากอาหารลงเพื่อลดการใช้พลังงานในร่างกายไปส่วนนึง
สามารถแบ่งตัวได้ 100 ต่อ 8 ชม. และ 1M ภายในหนึ่งวันเลยทีเดียว
ไวรัสชนิดนี้แบ่งออกเป็น 3 สายพันธ์ุคือ A,B,C ไวรัสสายพันธ์ุ B จะมีความร้ายแรงที่น้อยกว่าไวรัสสายพันธ์ุ A ซึ่งสายพันธ์ุ A นั้นจะแข็งแกร่งที่สุดถึงขนาดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรายังต้านทานไม่อยู่ แต่ถ้าหากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายตรวจพบเจอสายพันธ์ุ B ระบบภูมิคุ้มกันจะใช้เวลาจัดการกับมันประมาณ 1 สัปดาห์หรือถ้าเร็วกว่านั้นก็ใช้เวลาเพียง 3-4 วัน และสามารถกินยาลดไข้อย่างพาราเซตามอลและให้เช็ดตัวเพื่อลดความร้อน ทานอาหารที่อ่อนๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อฟื้นฟูร่างกายด้วย
ระบบภูมิคุ้มกันที่มีหน้าที่หลักในการจัดการกับพวกแอนติเจนจะมีนิวโทรฟิล (Neutrophil) ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายสะสารของตัวเองไปตามที่แคบของร่างกายได้และเป็นพลังสำคัญในการกำจัดแอนติเจน
แมคโครฟาจ (Macrophage) มีหน้าที่ทั้งจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลของศัตรูที่พบเจอว่าไวรัสชนิดนี้เป็นชนิด A หรือ B แล้วส่งข้อมูลไปให้เซลล์เดนไตรติกเพื่อให้เขาแระสานงานไปยัง T helper เพื่อประมวลผลการรับมือว่าต้องส่ง T killer ไปหรือไม่
เซลล์ T ประกอบไปด้วย T Killer, T Helper, เซลล์ Naive, เซลล์ T Memory
เซลล์ T killer เป็นลิมโฟไซต์ที่แข็งแกร่งมากๆ มีหน้าที่ในการจัดการกับ Influenza หรือพวกแอนติเจนที่แพร่พันธ์ุได้รวดเร็ว แถมยังจัดการกับเซลล์ที่มีความผิดปกติทั้งหมดเช่นเซลล์มะเร็งเป็นต้น
เซลล์ Naive เป็นเซลล์ T ที่ยังโตไม่เต็มที่ และไม่สามารถต่อกรกับแอนติเจนได้ แต่สามารถแปรเปลี่ยนสภาพเป็นเซลล์ T effector หรือ เซลล์ Naive ที่โดนกระตุ้นโดยเซลล์ Dentritic นั่นเอง
ส่วน เซลล์ T Memory จะมีหน้าที่ในการจดจำรายละเอียดการต่อสู้และชนิดของไวรัสหรือแอนติเจนที่เคยเจอเพื่อเตรียมการรับมือกับศัตรูและสื่อสารบอกข้อมูลกับเซลล์ T killer ได้
และเซลล์ B ที่สามารถสร้าง Antibody เพื่อจัดการกับแอนติเจนได้
Comments